โครงสร้างโปรแกรมภาษาจาวา
โปรแกรมที่สร้างจากภาษาจาวา ต้องสามารถสร้างออปเจ็คหรือคลาสให้ได้อย่างน้อยหนึ่งตัว
public class ชื่อคลาส
{
public static void main(String[] agrs)
{
class คือคีย์เวิร์ดสำหรับกำหนดคลาส
Class_Name คือชื่อคลาส
Data_Member ดาต้าในคลาส
Method_Member เมธรอดในคลาส
สัญลักษณ์ { } คือของเขตของคลาส
public class ชื่อคลาส
{
public static void main(String[] agrs)
{
class คือคีย์เวิร์ดสำหรับกำหนดคลาส
Class_Name คือชื่อคลาส
Data_Member ดาต้าในคลาส
Method_Member เมธรอดในคลาส
สัญลักษณ์ { } คือของเขตของคลาส
ใช้ตั้งชื่อคลาส ชื่อดาต้า ชื่อเมธรอด และชื่อตัวแปร
- ประกอบด้วยตัวอักษร และหรือตัวเลข โดยตัวอักษรให้ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษไม่ว่าตัวเลขหรือตัวใหญ่ รวมถึงสัญลักษณ์พิเศษ _ หรือ $ เช่น age, name2, int2float, _name, Currency$ เป็นต้น
- ความยาวตัวอักษรไม่ควรเกิน 65535 ตัวอักษร
- ไม่ควรมีตัวเลขเป็นตัวแรก เช่น 101database, 2name ถือว่าไม่สามารถใช้ตั้งชื่อได้
- ตัวอักษรตัวเล็กและตัวใหญ่มีความแตกต่างกัน ดังนั้น Count, count และ CoUnT ทั้งสามตัวอ่านเหมือนกัน แต่ถือว่าเป็นคนละตัวกัน
- ต้องไม่ตรงกับคีย์เวิร์ดใดในภาษาจาวาดังต่อไปนี้
รูปแบบ
[Access_Level] [final] [static] Data_Type Data_Name
ดาต้าคือส่วนประกอบส่วนหนึ่งของคลาส ถูกกำหนดเพื่อใช้สำหรับเก็บข้อมูล เช่นคลาส Pen มีดาต้า Color ไว้เก็บข้อมูลสี
- คีย์เวิร์ด public เป็นระดับการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่มีข้อจำกัดใดๆ
- คีย์เวิร์ด private เป็นระดับการเข้าถึงข้อมูล สำหรับการใช้งานภายในคลาสเท่านั้น
- คีย์เวิร์ด protected เป็นระดับการเข้าถึงข้อมูลภายในคลาส และสำหรับคลาสที่สืบทอดมา (Inherit) แต่ต้องอยู่ในเพ็กเกจ (package) เดียวกัน
- ถ้าไม่ระบุคีย์เวิร์ด เป็นระดับการเข้าถึงข้อมูลภายในคลาส และอยู่เพ็กเกจเดียวกัน
final เป็นคีย์เวิร์ดตัวหนึ่งซึ่งใช้บอกว่าดาต้าตัวนั้นใช้สำหรับเก็บข้อมูล โดยที่ข้อมูลจะไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าในกรณีใดๆ ปกติจะใส่คีย์เวิร์ดนี้ไว้เมื่อต้องการให้ดาต้าเก็บข้อมูลที่เป็นข้อมูลที่คงที่ (Constant) ตลอดการทำงานของโปรแกรม
static เป็นคีย์เวิร์ด สำหรับใช้บอกถึงคุณลักษณะพิเศษในการใช้งาน เมื่อมีการกำหนดให้ดาต้าใดๆนำหน้าด้วยคีย์เวิร์ด static แล้ว ดาต้าตัวนั้นจะมีคุณลักษณะดังนี้
- ดาต้า จะถูกโหลดลงในหน่วยความจำและพร้อมที่จะถูกใช้งานในทันทีเมื่อมีการอ้างถึง ตามข้อกำหนดของระดับการเข้าถึง (Access Level)
- ดาต้า จะอยู่ในหน่วยความจำเพียงตัวเดียว ไม่ว่าคลาสจะถูกสร้างเพื่อเป็นออปเจ็คกี่ตัวก็ตาม ดังนั้นจึงสามารถใช้ดาต้าเป็นที่เก็บข้อมูลรวมของกลุ่มคลาสเดียวกันได
รูปแบบ
[Access_Level] [final] [static] Return_Type Method_Name ( Argument_List )
{ Statement }
{ Statement }
- Argument_List คือช่องทางสำหรับการผ่านข้อมูลเพื่อส่งให้กับเมธรอดใช้ในการทำงาน
- Statement คือคำสั่ง คีย์เวิร์ดควบคุมการทำงาน เอ็กเพลสชั่นใดๆ เพื่อกำหนดหลักการและวิธีการประมวลผลภายในเมธรอด
- สัญลักษณ์ { และ } เป็นเครื่องหมายบ่งบองขอบเขตของเมธรอด
· ในซอร์สโค้ดของโปรแกรมแต่ละสเตจเม็นต์ปิดท้ายด้วยเครื่องหมาย ; ดังนั้นโปรแกรมสามารถเขียนสเตจเม็นต์ได้มากกว่าหนึ่งสเตจเม็นต์ในหนึ่งบรรทัดของซอร์สโค้ด หรือสามารถเขียนสเตจเม็นต์โดยมีความยาวมากกว่าหนึ่งบรรทัดก็สามารถทำได้
· int i;
· System.out.print("Hello");
· คอมเม็นต์มีหลักและรูปแบบการเขียนอยู่สองวิธี กล่าวคือ
· วิธีที่ 1 คอมเม็นต์ส่วนท้ายบรรทัด (สำหรับข้อความยาวไม่เกินหนึ่งบรรทัด)
คอมเม็นต์แบบนี้ใช้กับข้อความที่มีความยาวไม่มากนัก คือสามารถเขียนได้ภายในหนึ่งบรรทัดของซอร์สโค้ด คอมเม็นต์วิธีนี้สามารถเขียนรวมอยู่กับสเตจเม็นต์ในบรรทัดเดียวกันได้
แต่ตัวคอมเม็นต์จำเป็นต้องอยู่ที่ท้ายบรรทัดเท่านั้น
คอมเม็นต์แบบนี้ใช้กับข้อความที่มีความยาวไม่มากนัก คือสามารถเขียนได้ภายในหนึ่งบรรทัดของซอร์สโค้ด คอมเม็นต์วิธีนี้สามารถเขียนรวมอยู่กับสเตจเม็นต์ในบรรทัดเดียวกันได้
แต่ตัวคอมเม็นต์จำเป็นต้องอยู่ที่ท้ายบรรทัดเท่านั้น
· // ข้อความ
· วิธีที่ 2 คอมเม็นต์ส่วนข้อความ (สำหรับข้อความยาวหลายบรรทัด) คอมเม็นต์แบบนี้ถูกใช้สำหรับการเขียนข้อความ
ที่มีความยาวมากๆ ซึ่งสามารถเขียนข้อความได้มากกว่าหนึ่งบรรทัด แต่ก็สามารถใช้กับข้อความสั่นๆได้ด้วยเช่นกัน การเขียนคอมเม็นต์ใช้สัญลักษณ์สองส่วน ประกอบด้วยตัวเปิดข้อความ /* และตัวปิดข้อความ */
ที่มีความยาวมากๆ ซึ่งสามารถเขียนข้อความได้มากกว่าหนึ่งบรรทัด แต่ก็สามารถใช้กับข้อความสั่นๆได้ด้วยเช่นกัน การเขียนคอมเม็นต์ใช้สัญลักษณ์สองส่วน ประกอบด้วยตัวเปิดข้อความ /* และตัวปิดข้อความ */
· รูปแบบ
· /* ข้อความ
· */
·
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : http://java.pongkorn.net/ch1_4.htm
http://www.itmelody.com/tu/javastructure.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น